Chào các bạn! Truyen4U chính thức đã quay trở lại rồi đây!^^. Mong các bạn tiếp tục ủng hộ truy cập tên miền Truyen4U.Com này nhé! Mãi yêu... ♥

-Chapter 11-

M 's POV

อีตาบ้าเอ้ย ชอบทำให้ฉันลำบากใจอยู่เรื่อยเลย ฉันจ้องหน้าผู้ชายตรงหน้าที่ไม่ยอมแม้แต่จะกระพริบตา ไม่ใช่ว่าฉันไม่อยากให้เขาอยู่ด้วยหรอกนะ แต่ถ้าฉันเข้าไปแล้วไม่ได้ทำให้อะไรมันดีขึ้นหล่ะ จะให้เขามารอเพื่ออะไร แต่ในเมื่อเขาให้ทางเลือกที่เหมือนไม่ได้ให้กับฉัน ฉันคงเลือกอะไรไม่ได้มากนอกจากให้คาลัมรอฉันถูกมั้ย เห็นแก่ตัวของแท้เลยฉันเนี่ย

"ถ้านายถูกไล่ออกจากวง อย่ามาโทษฉันทีหลังก็แล้วกัน" ฉันย่นหน้าใส่เขาก่อนจะถูกร่างหนาตรงหน้าดึงเข้าไปกอดเอาไว้ กลิ่นบุหรี่อ่อนๆที่ติดอยู่ที่ตัวของเขาแตะจมูกฉันทำให้ฉันรู้สึกผ่อนคลายอย่างบอกไม่ถูก

"ฉันตัดสินใจขับรถมาเป็นพันไมล์ ไม่ใช่แค่มองเธอเดินจากฉันไปโง่ๆแบบนี้แน่นอน" คาลัมกระซิบใส่ข้างหูฉันพลางฝังจูบลงบนขมับของฉันแรงๆอีกรอบ ยิ่งเขาทำแบบนี้ยิ่งทำให้ฉันรู้สึกผิด ผิดที่เอาเขาเข้ามาเกี่ยวกับชีวิตบ้าๆของฉัน ผิดที่ใช้เขาสารพัด ผิด ผิดที่ดันหลงรักเขา....ไปแล้ว

"ฉันจะรออยู่ข้างนอกนี่ โอเคมั้ย"  ฉันพยักหน้าแทนคำตอบไป ก่อนที่จะเดินตรงไปยังประตูบานใหญ่ตรงหน้า ฉันสูดลมหายใจก่อนผ่อนมันออกมาอย่างช้าๆ ฉันลองยื่นมือผ่านประตูสีน้ำตาลเข้มความอุ่นในบ้านทำให้ฉันดึงมือกลับออกมาช้าๆ

ฉันหันกลับไปหาคาลัมที่ยังคงทำหน้านิ่งยืนพิงรถของเขา เขาไม่ได้แสดงท่าทางอะไรนอกจากขยับปากถามฉันว่าโอเคมั้ย ซึ่งฉันก็พยักหน้าตอบเขากลับไปเช่นเดิม

'กล้าๆหน่อยสิ เอ็ม' ฉันพูดกับตัวเองก่อนหลับตาพุ่งตัวเข้าประตูบานใหญ่ตรงหน้าทันที ภาพที่ฉันเห็นคือ กำแพงสีครีมถูกตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์เรียบๆ สายตาฉันกวาดไปทั่ว ทุกอย่างดูปกติ ยกเว้นกรอบรูปประมานสามสี่อันถูกวางคว่ำไว้ฉันจึงตั้งสติก่อนหยิบมันตั้งขึ้น พระเจ้า ฉันยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัวตามผู้หญิงที่อยู่ในรูป นั่นก็คือตัวฉันเอง ฉันใช้นิ้วลูบตามใบหน้าของฉันและนิค 'เราเคยมีความสุขกันใช่มั้ย'........

ฉันเดินตรงเข้าไปเรื่อยๆพบกับเขา ใช่ นิค นิคกำลังนั่งอ่านแผ่นกระดาษสีขาวบนเตียงนอน ฉันรีบเดินตรงเข้าไปหาเขาทันที ร่างสูงยังคงนั่งนิ่ง ฉันมองบรรยากาศข้างตัวมันทำให้ฉันรู้สึกมึนหัวนิดหน่อย บวกกับกลิ่นวานิลลาอ่อนนี่อีกมันเหมือนย้ำเตือนให้ฉันนึกถึงอะไรบางอย่าง ฉันค่อยๆหย่อนตัวเองลงนั่งข้างผู้ชายตรงหน้า ผมสีน้ำตาลที่ไม่ได้เซตถูกปล่อยให้ลงมาที่หน้าผากของเขา ดวงตาสีน้ำตาลที่เพ่งมองกระดาษที่เขาถืออยู่อย่างเคร่งเครียด ฉันเผลอเอื้อมมือไปสัมผัสแขนของนิคเบาๆ มันอาจเป็นจังหวะที่เขาหลับตาพอดีจึงทำให้ฉันรู้สึกว่าเขารับรู้ในการมาของฉัน ฉันภาวนาให้เป็นอย่างนั้น

"ฉันขอโทษเม ฉันมันเลว ฉัน....." เสียงแหบพร่าที่เปล่งออกจากปากนิคทำให้ฉันชาไปทั้งตัว  เดี๋ยวนะนายขอโทษฉันทำไมกัน เวร! อาการปวดหัวบ้าๆนี่กลับมาหาฉันอีกแล้ว อย่าเพิ่งมาตอนนี้ได้มั้ย ฉันมองหน้านิคซึ่งภาพตรงหน้ากลับบิดเบี้ยวเป็นรูปร่างอะไรก็ไม่รู้

"Shit! "และสติฉันก็ดับลงพร้อมๆกับคำอุทานนั่น

.

.

.

.

.

.

.

.

.........................................................................................................................................................................

'เมอยู่หน้าบ้านนิคแล้วแด๊ดไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ เดี๋ยวเมเซอไพรซ์เขาแล้วจะรีบกลับ' เสียงปลายสายได้ตอบรับเล็กน้อยก่อนวางสายไป ฉันคว้ากลอนประตูที่แสนเย็นเฉียบเพราะอากาศตอนนี้ถูกปกคลุมไปด้วยละอองหิมะคลุ้งอยู่รอบตัวฉัน หลังจากฉันกลับมาจากไปเยี่ยมญาติที่เมลเบิร์นมาฉันก็ตรงดิ่งมาที่บ้านนิคทันที วันนี้เป็นวันเกิดเขาหนะ เจ้าแผนการอย่างฉันจึงหลอกเขาว่าจะกลับวันพรุ่งนี้ ฮ่าๆ นายนั่นน้อยใจงอลฉันไปตั้งสามวิแหนะ ฉันเลยต้องรีบจัดบ้านนิคให้ทันก่อนที่เขาจะกลับมาจากที่ทำงาน แผนเซอไพรซ์แฟนสุดที่รักของฉันต้องสมบูรณ์แบบค่ะ J

'เอ๊ะ! ' ฉันประหลาดใจกับการล๊อคกลอนของกลอนประตูที่ไม่เคยล็อค นายนั่นเคยล็อคประตูบ้านซะที่ไหนกัน ฉันรีบก้มลงไปควานหากุญแจสำรองที่เขาซ่อนไว้ใต้กระถางต้นไม้ทันที

'แกร็ก' ฉันรีบใช้มือข้างที่เหลือไขกุญแจเข้าบ้านอย่างรวดเร็ว ไม่อย่างนั้นฉันอาจจะแข็งตายข้างนอกได้ ฉันมองนาฬิกาข้อมือที่บอกเวลาหกโมงพอดี ฉันต้องเร่งฝีมือแล้วหล่ะ เพราะไม่งั้นงานนี้ต้องเละไม่เป็นท่าแน่ๆ ฉันวางของตกแต่งที่พื้นอย่างเบามือ พลันสายตาก็ไปสะดุดกับรองเท้าconverseที่คุ้นตาวางอยู่ถัดจากประตู เวรกรรม!เขาอยู่บ้านหรอ เวร เวร เวร!!! ไม่นะแผนเซอไพรซ์ของฉัน แต่เขาอาจจะหลับอยู่ก็ได้นะ เพราะนิคของฉันมีที่สิงสถิตอยู่ไม่กี่ที่ ถ้าเขาไม่อยู่หน้าทีวี หน้าคอมหล่ะก็ ต้องอยู่บนเตียงเท่านั้นแหละ ฉันหยิบป้ายแฮปปี้เบิร์ทเดย์ติดมือไป ก่อนค่อยๆย่องไปในห้องนั่งเล่น

'.......(   --)' ฉันชะโงกหน้าเข้าไปในห้องพบกับความว่างเปล่า บนโต๊ะมีขวดไวน์ที่ถูกเปิดตั้งอยู่ มันจะไม่มีอะไรถ้าแก้วที่วางอยู่มันมีแค่แก้วเดียว แต่ประเด็นคือแก้วที่วางไว้มันดันมีสองแก้วหน่ะสิ แถมแก้วที่สองมันมีรอยที่ผู้หญิงทุกคนรู้ดีว่ามันคือ 'รอยลิปสติก'........

ขาฉันทำงานตามสมองเสมอซึ่งนั่นมันใช่เป็นสิ่งที่ดีเสมอไป ฉันรีบเดินตรงยังห้องนอนของนิคทันที ประตูไม้โอ๊กสีครีมได้ถูกเปิดอ้าไว้ ทำให้ฉันได้ยินเสียงครางอันน่าขยะแขยงที่ดังออกมาจากข้างใน ขอบตาของฉันเริ่มมีน้ำใสๆไหลออกมา ฉันรีบยกมือขึ้นมาปาดมันออกอย่างลวกๆ มันอาจจะไม่ใช่เขา ไม่ใช่เขาหรอก....

'อ้ะ นิค อ๊าา พลีส' เสียงผู้หญิงดังออกมาเรียกสติของฉันอีกครั้ง

' let me in babe arrrr' ฉันยกมือขึ้นมาปิดปากทันทีที่ได้ยินเสียงชายที่คุ้นหู พลันขาของฉันก็ดันทำตามสมองโง่ๆอีกครั้ง ฉันใช้มือที่สั่นเทาของฉันดันประตูให้เปิดกว้างขึ้น ภาพที่ฉันเห็นทำให้ขาฉันอ่อนยวบลงทันที  นิคกับผู้หญิง.....คนอื่น กำลังนัวเนียกันอย่างเมามันส์กันบนเตียง เตียงที่เขากับฉันเคยนอนกอดกับฉัน

'นิค นายทำอย่างงี้กับฉันได้ยังไง' ฉันเค้นเสียงออกมาพลางมองภาพที่น่าสะอิดสะเอียนตรงหน้า ฉันยืนขึ้น พลางกำกระดาษแฮปปี้เบิร์ทเดย์ที่อยู่ในมือ

'กรี๊ดดด นิค ยัยนี่มันเป็นใครคะ' มันไม่ใช่ครั้งแรกค่ะที่ฉันโดนตั้งคำถามกลับแบบนี้ ยัยหัวทองรีบกุลีกุจอหาผ้ามาปิดร่างที่เปลือยเปล่าของเธอเอาไว้

'เม!!' นิคสะดุ้งพลางผละตัวออกจากยัยผู้หญิงน่าไม่อายคนนั้น เหอะ เห็นฉันแล้วหรอ ฉันยกมือขึ้นปาดน้ำตาเฮงซวยนี่อีกครั้ง

'เม! มันไม่มีอะไร ฟังผมก่อน ผม.. โอ้ย!!' นิครีบหยิบบ็อกเซอร์ขึ้นมาใส่ก่อนรีบกระโดดมาคว้าแขนฉันไว้

'เอามือสกปรกออกไปจากตัวฉัน นายมันเลว' ฉันปากระดาษในมือไปที่หน้าเขาอย่างแรง ฉันอยากออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด แต่แรงที่มีอันน้อยนิดในตอนนี้กลับทำไม่ได้แม้กระทั่งก้าวขาให้ห่างจากเขา

'เม ผมเอ่อ เรายังไม่ได้มีอะไรกัน' นิคพยายามเข้ามากอดฉัน มันเป็นสัมผัสที่ฉันอยากจะอ้วก มือที่เขาใช้ลูบไล้ยัยโสโครกนั่นมันต้องไม่มาอยู่บนตัวของฉัน

'ปล่อยฉันนะ!' ฉันดันเขาออกห่างก่อนมองหน้าเขา

'เบ๊บ ได้โปรด ฟังผมก่อน'

'หึ เมื่อไม่กี่นาทีที่แล้วเบ๊บที่นายเรียกไม่ใช่ฉันหนิ' ฉันมองไปยังผู้หญิงที่เอาผ้าห่มขึ้นมาปิดเนินอกบนเตียง พลางทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ ฉันควรจะจิกหัวเธอลงมาตบหรืออะไรดีมั้ยห๊ะ แต่ช่างมันเถอะ ฉันพอแล้ว......

'ฉันเคยรักนายมาก ฉันเคยเชื่อใจ...ฮึก...คนอย่างนาย' ไอ้น้ำตาบ้านี่ก็ไหลออกมาอยู่ได้ น้ำใสๆไหลออกมาจากขอบตาของฉันอย่างไม่ขาดสาย ทำให้ฉันดูเป็นคนโง่ โง่ที่ให้ผู้ชายอย่างเขาหลอกมาตลอด

'ให้โอกาสฉันอีกครั้งนะเม' นิคคุกเขาลงต่อหน้าฉัน พลางกุมมือของฉันไว้ ยิ่งฉันมองหน้าเขาฉันยิ่งเสียใจ ฉันยอมรับว่าฉันรักเขา แต่ฉันรักเขามากเกินกว่าที่เขาจะรักฉันตอบได้ 

'ฉันเคยให้นายไปแล้วนะนิค ฉัน ฮึก ฉันพอแล้ว ฉันไม่ไหวแล้ว ' ฉันพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ให้ไหลออกมามากกว่านี้พลางรีบหยิบโทรศัพท์กดโทรไปหาพ่อทันที 

'ฮัลโหล เม เม เป็นอะไรลูก' เสียงปลายสายดังขึ้น เสียงของพ่อมันทำให้ฉันร้องไห้หนักขึ้นอีก ให้ตายเหอะ ฉันทำให้พ่อหนักใจอีกแล้ว

'แด๊ด ฮึก มารับเมหน่อย ที่เดิมนะ' ฉันรีบกดวางสายทันที พลันรีบสาวเท้าไปยังประตูบ้าน

'เม เม ผมจะไม่ทำให้คุณเสียใจอีกแล้ว ผมขอโทษ' นิคกอดฉันไว้จากด้านหลัง ด้วยแรงที่เขารัดฉันไว้ทำให้ฉันยิ่งอ่อนแอมากขึ้น พระเจ้า ฉันชอบเขา ฉันชอบกอดของเขา

'นิค ปล่อย!' ฉันรีบดันตัวออกสุดแรง ถ้าอยู่ภายในอ้อมกอดเขาอีกไม่กี่นาที ฉันอาจจะใจอ่อนเหมือนที่ผ่านมาอีกตามเคย ฉันไม่ยอมกลับไปยืนที่เดิมอีกแล้ว

'เม เมมมมมมมม! Damn it!!!!!!' ฉันรีบวิ่งออกจากตรงนั้นให้เร็วที่สุด เสียงตะโกนไล่หลังมันทำให้น้ำตาฉันไหลอย่างบ้าคลั่งอีกครั้ง แรงลมหนาวกระทบหน้าที่เปื้อนไปด้วยน้ำตามันทำให้ฉันรู้สึกแสบไปถึงกระดูก ฉันหวังว่าเขาจะตามมารั้งตัวฉันไว้อีกครั้ง หวังว่าเขาจะวิ่งมาตามฉันกลับไป หึ ไม่มีแม้แต่เสียงรองเท้า เสียงตะโกนก็หายไปเช่นกัน มันคงถึงเวลาที่ต้องพอแล้วจริงๆ............

.

.

.

.

.

...........................................................................................................................................................................

'เฮือกกกกกก'  ฉันสูดลมหายใจเข้าปอดอย่างสุดแรงเมื่อสติฉันกลับมา เดี๋ยวนะ นิค นายนอกใจฉันหรอ ฉันมองหน้าชายตรงหน้าที่ตอนนี้กำลังร้องไห้อย่างไร้สติ ฉันรู้สึกตกใจปนเสียใจเล็กน้อยที่รู้ว่านิคไม่ได้เพอร์เฟคขนาดนั้น ตอนเป็นคนฉันก็เจอเรื่องสาหัสมาเหมือนกันนะเนี่ย ฉันหัวเราะออกมาเล็กน้อยก่อนที่จะเผลอลูบหลังเขาไปอีกครั้ง 

"ผมมันเลวใช่มั้ย คุณถึงไม่ยอมฟื้นขึ้นมาสักที" นิคกำกระดาษในมือแน่น  ตราที่ประทับอยู่บนกระดาษบวกกับตัวหนังสือที่เขียนว่าโรงพยาบาลดึงดูดให้ฉันไล่สายตาไปตัวหนังสือที่เปื้อนอยู่ทันที  ในกระดาษมีชื่อของฉันอยู่ พร้อมทั้งบอกอาการเสร็จสรรพ แต่ก่อนที่สายตาฉันจะไล่ไปหารายละเอียดที่มากกว่านี้ กระดาษตรงหน้าก็ถูกพับลงไป

"แต่ยังไงผมก็จะรอคุณกลับมา "นิคก็ลุกยืนขึ้นพร้อมคว้ากุญแจรถ ฉันจึงรีบวิ่งตามเขาไปทันที นี่เขากำลังไปหาร่างฉันใช่มั้ย ฉันเร่งฝีเท้าตามร่างสูงตรงหน้าแต่เขาดันหยุดชะงักอย่างกระทันหันจนฉันต้องรีบเบรกตาม เอ๊ะ ฉันจะรีบเบรกตามทำไม ยังไงฉันก็ชนเขาไม่ได้อยู่แล้วป่ะ นิคตรงดิ่งไปยังกรอบรูปที่ฉันตั้งขึ้นมาตอนที่เข้ามา ฉันลืมวางคว่ำเหมือนเดิมหรอเนี่ย ฉันมองนิคที่มองรูปอยู่สักพัก เขาคว่ำรูปนั่นลงเหมือนเดิม ถึงฉันจะรู้สึกว่าเขาทำผิดกับฉันมาก แต่ก็เหมือนว่าเขาก็กำลังชดใช้ความผิดนั้นอยู่เช่นกัน หน้าที่แสนเศร้าของเขามันทำให้ฉันอยากร้องไห้ตามยังไงก็ไม่รู้ ตอนฉันเป็นคนฉันคงรักนิคมากจริงๆแหละ

'เธอจะกลับมาหาฉันใช่มั้ย'อยู่ดีๆเสียงของนายคาลัมหน้าย่นก็ผุดขึ้นมาในหัวของฉัน ฉันรีบไล่เสียงนั่นออกไปจากหัวก่อนจะเดินออกไปรอนิคนอกบ้าน

"เอ็ม!" คาลัมลุกยืนขึ้นทันทีที่เห็นฉันออกมาจากบ้าน ยิ้นบนใบหน้าเขาหายไปเมื่อเห็นนิคเดินตามฉันออกมา ฉันมองนิคที่กระโดดขึ้นรถกระบะของเขา ก่อนค่อยๆเร่งเครื่องออกไป

"เอ็ม เธอเป็นไงบ้าง?" คาลัมยิงคำถามใส่ทันทีที่ฉันวิ่งมาหาเขา

"ได้อะไรมั้ย "

"ร่างเธออยู่ที่ไหน"

"ไอ้งั่งนั่นมันทำอะไรเธอรึเปล่า"

" คาลัม นายใจเย็นๆนะ นายช่วยขึ้นรถแล้วตามรถของนิคไปเดี๋ยวนี้เลย เขากำลังไปร่างของฉัน เดี๋ยวฉันจะตอบนายทุก..." ฉันดันหลังคาลัมให้ขึ้นรถ

"ทำไมไม่บอกตั้งแต่แรกห๊ะ" คาลัมรีบกระโดดขึ้นไปนั่งหลังพวงมาลัยทันที พลางยื่นหน้าเขาจนแทบติดกระจกเพื่อมองรถของนิค

"ฮ่าๆ ท่านายตลกชะมัด" ฉันหัวเราะออกมาอย่างช่วยไม่ได้ ทุกอย่างมันดูสบายไปหมดเมื่ออยู่กับอีตาบ้านี่ทุกทีเลย ขอบคุณนะนายคาลัม

"คุณนายเอ็มครับ จะยืนมองหน้าผมจนตามรถของนิคไม่ทันเลยใช่มั้ยครับ รีบขึ้นรถมาสิยัยเอ๋อ" คาลัมตบเบาะข้างตัวเขาจนฉันสะดุ้ง

"จริงด้วย กรี๊ดดด ไปเร็วคาลัมมม ตามรถแฟนฉันไปเลย"

"(- -"  )"

"แฟนเก่า ...... ก็ได้ แหะๆ"สายตาอำมหิตที่นายคาลัมมองฉันทำให้แก้คำพูดแทบไม่ทัน

ในที่สุดฉันจะได้เจอร่างของฉันแล้วสินะ..................................................





writer's part

นิคออกโรงเเล้วววววว มาในเเนวเเบดบอยนิดๆ5555 ตอนต่อไปจะพีคขึ้นนิดนึงแอบบอกไว้ก่อนเน๊อะ อย่าเพิ่งทิ้งกันน่า มาเม้น มาโหวตให้เก๊าด้วยน้าา รักรีดเดอร์ทุกคน <3 <3

Bạn đang đọc truyện trên: Truyen4U.Com