Chào các bạn! Truyen4U chính thức đã quay trở lại rồi đây!^^. Mong các bạn tiếp tục ủng hộ truy cập tên miền Truyen4U.Com này nhé! Mãi yêu... ♥

- Chapter 4 -

Calum's part

ฟรึบ!!!!

" เย้ย!! บอกแล้วว่าถ้าจะโผล่มาให้โผล่มาดีๆไงแคท" ผมสะดุ้งโหยง เมื่อสาวผมบลอนด์ตรงหน้าปรากฏกายขึ้น ทำเอาชีทที่ผมร่างเนื้อเพลงไว้ปลิวว่อนไปทั่วห้อง

" ฮ่าๆๆ หน้านายตลกชะมัด นี่นายยังกลัวฉันอยู่หรอ" แคทอรีนเอ่ยขึ้นพร้อมชันมือขึ้นมาที่เอวของเธอ

"มะ ไม่ได้กลัวสักหน่อย"

"ไม่จริง นายกำลังกลัว เวลาที่นายกลัวจมูกนายจะบานๆหุบๆอย่างเงี้ย" สิ้นเสียงแหลม แคทก็ชี้นิ้วเรียวยาวมาที่จมูกของผมทันที จมูกบาน? ผมได้ยินไม่ผิดใช่ไหม ผมรีบเอามือขึ้นมาปกปิดความน่าอายของอาการกลัวที่แสดงออกมาอย่างชัดเจน พลางมองคนตรงหน้าที่กำลังขำอย่างบ้าคลั่ง

"เธอนี่มัน... มานี่เลย" ผมคว้ามือที่กำลังชี้หน้าผมอยู่เมื่อไม่กี่นาทีนี้ ก่อนจะดึงร่างเธอมานั่งบนตักพลางโอบเอวของเธอไว้หลวมๆ แคทยังคงหัวเราะอยู่ในอ้อมกอดพลางหันมาซุกใบหน้าเล็กๆนั่นที่ไหล่ผม

"คาล ฉันอยากไป Darling harbor เมื่อกี้ไปดูในทีวีมา" แคทหยุดหัวเราะก่อนเอ่ยขึ้นช้าๆ พลางเงยหน้าขึ้นมามองผม ตาสีฟ้าที่เป็นประกายคู่นั้นที่มักทำให้ผมเหมือนอยู่ภายใต้มนต์สะกดอยู่เรื่อย

"ทำไมถึงอยากไปที่นั่นหล่ะ" ผมถามกลับพลางเกลี่ยผมที่ปรกหน้าผากของเธออยู่

"ก็มันดูสวยดี แถมโรแมนติกอีกต่างหาก ฉันอยากมีความทรงจำดีๆกับนายถึงแม้ว่าฉันจะเป็นวิญญาณก็ตาม"

"ฉันบอกเป็นล้านครั้งแล้วว่าฉันไม่ได้มองเธอเป็นวิญญาณ ทำไมต้องให้ย้ำอยู่เรื่อยเลย" ถึงแม้ในความเป็นจริงมันจะตรงกันข้าม ความรู้สึกของผมก็คอยบอกเสมอว่าแคทอรีนไม่ใช่วิญญาณ ไม่ใช่เลยสักนิด

"น้ะ อยากไปจริงๆ" แคทลุกขึ้นจากตักของผมก่อนวางมือบางๆทั้งสองข้างของเธอมาบนแก้มของผม ผมมองคนเบื้องหน้าก่อนพยักหน้าเบาๆเป็นการตอบรับสิ่งที่เธอขอ แค่เธอเอ่ยปากผมก็พร้อมที่จะทำทุกๆอย่างให้เธออยู่แล้ว

"คาลัม คาล๊ามมมม นายได้ยินฉันมั้ยเนี่ย!" เสียงผู้หญิงที่เหมือนจะคุ้นเคยดังขึ้นมาขัดการสนทนาของผมและแคท 'เสียงใครวะ' ผมอยู่กับแคทแค่สองคนไม่ใช่หรอ ผมมองหน้าแคทที่กำลังจ้องมองมาที่ผมเช่นกัน แต่แปลกตรงที่ร่างของแคทอรีนกลับค่อยๆจางหายไปเรื่อยๆ

"แคท ไม่! อย่าทิ้งผมไป แคท!!" เพราะเสียงยัยนั่นคนเดียว ผมยังคงมองร่างของแคทที่กำลังยิ้มให้ผมพร้อมร่างที่ค่อยๆจางหายไป

"แคท!!" ผมลืมตาขึ้นอย่างตกใจ เสียงหัวใจที่เต้นแรงภายใต้อกของผมบวกกับผนังห้องสีเทาที่คุ้นเคยย้ำเตือนให้ผมรู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้เป็นความฝัน ความฝันที่งี่เง่าที่สุด ผมกวาดสายตาไปรอบตัวก่อนพบสิ่งมีชีวิตที่นั่งอยู่ที่พื้นข้างเตียงของผมพร้อมกับสายตาที่จ้องมาที่ผม เสียงที่ผมได้ยินในฝันคงเป็นเสียงของเธอสินะ เอ็ม..

"ใครคือแคท? " ไม่ทันที่สายตาผมจะโฟกัสกับอะไร เอ็มก็ยิงคำถามใส่ผมทันที

"อะไรของเธอ" ผมมองหน้าเจ้าของคำถาม

"ก็นายละเมอเสียงดังมาก แล้วนายก็พูดแต่ แคท แคท แคท "

"ไม่ใช่เรื่องของเธอ ว่าแต่ตาเธอทำไมมันดูบวมๆ งั้นอะ อย่างกับคนอดนอน"

"ก็ใช่หนะสิ ฉันแทบไม่ได้นอนเลย นายเอาแต่ตะโกน ละเมอเพ้อภพถึงแคทอยู่นั่......."

"อย่าพูดถึงชื่อนั้นขึ้นมาอีก! มันไร้สาระ"

End calum's part

"ก็นายทำฉันไม่ได้นอนนี่" เสียงคาลัมที่ทั้งทุ้มทั้งดังทำให้ฉันสะดุ้งเล็กน้อย

"เธอเป็นผู้ขอเข้ามาอยู่ที่นี่เอง ถ้าเธอทนไม่ไหว ก็ไปหาคนอื่นช่วยแทน ฉันยินดี " อีตานี่พูดอย่างอื่นไม่เป็นหรอไงวะ เอะอะอะไรก็ไล่ลูกเดียวเลย คาลัมตีหน้านิ่งใส่ฉัน ทำให้ฉันอยากเข้าไปบีบคอหนาๆของเขาจริงๆ นี่ฉันยังทนไม่พออีกหรือไง เมื่อวานก็ต้องกินแซนวิสรสชาติเฮงซวย แถมยังต้องนอนที่พื้น ขอย้ำค่ะ 'พื้น' นายคาลัมให้ฉันนอนพื้นที่แสนจะแข็งและเย็นเฉียบ ถึงฉันจะเป็นผีแต่ฉันก็ก็ยังมีความรู้สึกทุกอย่างนะโว้ย

"ฉันขอย้ำนะ อย่าพูดถึงชื่อนั้นอีก" คาลัมพูดพลางขยับตัวไปยังห้องน้ำ

"บอกตัวเองเหอะ" ฉันเอามือขึ้นมาปิดปากที่คอยพ่นแต่คำพูดที่ชวนให้เขาเขกกบาลเหลือเกิน เขาหยุดเดินทันทีที่สิ้นเสียงของฉันพร้อมถอนหายใจออกมาอย่างแรง

"ฉันไม่มีเวลามาเถียงด้วย ทำธุระของเธอให้เรียบร้อย วันนี้ฉันต้องไปให้สัมภาษณ์วิทยุกับ..."

"คาลลลล ตื่นยังว้ะ คาเรนโทรมาบอกว่ากำลังเดินทางมารับพวกเรา แต่งตัวได้แล้วนะมึง"เสียงลุคที่ลอดประตูเข้ามาแทรกประโยคที่คาลัมกำลังจะพูด นายนั่นชี้ไปยังต้นเสียงก่อนเดินเข้าห้องน้ำไป ฉันไม่รอช้ารีบออกจากห้องก่อนรีบเดินตามลุค ลงไปข้างล่างทันที เสียงโลหะที่ดังกระทบกันอย่างต่อเนื่องฉันชะโงกหน้าเข้าไปในห้องครัว กลับพบชายหนุ่มหัวบลอนด์ที่กำลังกุลีกุจอเตรียมอาหารอย่างทุลักทุเล ลุคพยายามจะพลิกของในกระทะซึ่งพิจารณาจากกลิ่นแล้วของในนั้นคงเป็นสีดำหมดแล้วแหละ

"Oh Shit!!" ลุคสบถขึ้นก่อนรีบปิดแก๊ส หน้าที่เหรอหราทำให้ผีอย่างฉันอดขำไม่ได้จริงๆ

"ทำไงดีวะ งั้นไอ้คาลเช้านี้มึงคงต้องกินคอนเฟลค เหมือนเดิมแล้วกันนะ " ลุคพูดขึ้นพร้อมเทของในกระทะลงถังขยะ เอ๊ะ! สองคนนี้นี่ยังไงๆอยู่ มีการทำอาหารเช้าให้กันด้วย หรือว่า....! ลุคกับคาลัมเป็นคู่ขากันหรอ อี๋ ถึงว่าเวลานายนั่นอยู่กับผู้หญิงอย่างฉันถึงอารมณ์แปรปรวนตลอดเวลา แต่ยังไงลุคก็ยังฮ๊อตสำหรับฉันเสมอนะ

พลัก!! ฉันเซไปเล็กน้อยจากแรงกระแทกเบาๆที่ไหล่ของฉัน นายคาลัมเดินเข้ามาชนฉันพลางเดินไปโอบคอลุค

" O.O " << หน้าฉัน การกระทำช่างตอกย้ำอะไรเช่นนี้

"มึงทำอะไรครัวกูเนี่ย น้ำแฉะเต็มพื้นไปหมดเลย แล้วนี่กลิ่นไหม้อะไรวะ" คาลัมพูดกับคู่ขา เอ้ย! ลุค ฉันรีบสะบัดความคิดบ้าๆนี่ออกจากหัวก่อนเดินออกไปนอกบ้านทันที กลิ่นหญ้าลอยขึ้นมาแตะจมูกทันทีที่ก้าวพ้นประตูบ้าน บรรยากาศเงียบสงบตอนนี้ย้ำเตือนให้ฉันนึกตอนที่มานอนอยู่กลางถนนในหมู่บ้านแห่งนี้

'กึก' ฉันมองไปยังลูกบอลหลากสีที่คาอยู่ตรงปลายเท้า

"พี่สาวเพิ่งย้ายมาหรอฮะ" หืมมม! นี่ฉันไม่ได้หูฝาดไปใช่ไหม ฉันรีบหันไปยังต้นเสียงทันที พลันสายตาก็พบกับเด็กผู้ชายตัวเล็กที่ยื่นมือมาเก็บบอลจากปลายเท้าของฉัน

"นะ นี่ หนูเห็นพี่ด้วยหรอ" ฉันรีบนั่งยองให้อยู่ในระดับเดียวกับเด็กน้อย

"เห็นสิฮะ ถามอะไรแปลกๆ" เด็กน้อยหมุนลูกบอลในมือ สลับกับมองหน้าฉัน

"ไม่น่าเชื่อ! พี่เพิ่งย้ายมา หนูอยู่แถวนี้หรอจ๊ะ"

"บ้านผมอยู่ถัดจากบ้านพี่คาลไปสองหลังฮะ แต่เอ ผมรู้สึกคุ้นหน้าพี่มากเลยนะฮะ" เยสสสสสส! ความหวังใหม่ของฉัน

"จริงเหรอ แล้วหนูชื่อ..."

"เจสซี่ เล่นอะไรอยู่ตรงนั้นไปเร็วลูกเข้าบ้านกัน" ไม่ทันที่ฉันจะจบประโยค เสียงจากผู้หญิงวัยกลางคนก็ดังขึ้นมาขัดก่อน

"ตามนั้นแหละฮะ บายฮะ" ฉันโบกมือเป็นการตอบแทน ก่อนมองเจสซี่วิ่งตามผู้หญิงคนนั้นไป บางทีฉันอาจจะมีอะไรเกี่ยวข้องกับเด็กน้อยตุ้ยนุ้ยคนนี้ก็ได้นะ หรือว่าจะให้เจสซี่ช่วยแทน ฮึฮือ(-- )( --)(-- ) ประมาณจากความสูงแล้วอายุไม่น่าเกิน 8 ขวบ คงช่วยฉันได้ไม่มากเท่าคาลัมแน่ๆ

"ยืนพึมพำอะไรคนเดียว"

"มาไม่ให้สุ่มให้เสียงเลยตกใจหมด " เสียงนายคาลัมเจ้าเก่าลอยมาเข้าหู ทำให้สิ่งที่คิดอยู่แตกกระเจิง

"นี่นาย มีคนเห็นฉันด้วย เด็กที่ชื่อเจสซี่อะ "

"เจสซี่ ข้างบ้านฉันเนี่ยนะ ไม่น่าเชื่อ โชคร้ายชะมัดเลยว่ามั้ย" ฉันย่นหน้าใส่เขา ผู้ชายอะไรปากร้ายชะมัด

"บางทีเขาอาจทำให้ฉันเจอร่างก็ได้นะ"

"เจอกับผีหนะสิ หัวยังไม่พ้นเอวเธอเลย จะไปช่วยอะไรเธอได้ "

Beep beep!! ไม่ทันที่ฉันจะเถียงเขาไปอีกรอบ เสียงแตรรถ jeep สีดำขลับที่แล่นเข้ามาเทียบฟุตบาทอย่างรวดเร็วก็ดันมาขัดฉันซะก่อน

"เฮ้! คาล ขึ้นรถเร็ว แล้วลุคอะ"กระจกที่ติดฟิล์มดำหนาค่อยๆถูกเลื่อนลงมาพร้อมเสียงไมเคิลที่ตะโกนพร้อมกับกวักมือเรียก

"อยู่นี่ ไปกันๆ เดี๋ยวสาย" ลุครีบวิ่งจากระเบียงบ้านไปยังรถที่จอดอยู่ ฉันไม่รอช้ารีบตามก้นลุคไปทันที

"เธอกำลังทำอะไรหนะ"

"กูก็กำลังขึ้นรถไง - - อะไรของมึงเนี่ยคาล " ฮ่าๆๆ อยากจะขำให้โลกแตก คาลัมรีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติ แล้วรีบก้าวขาตามขึ้นรถมาอย่างรวดเร็ว ทำให้ตอนนี้ในรถฉันจึงได้นั่งระหว่างลุค และคาลัมที่มองตาขวางมาที่ฉัน ส่วนฝั่งตรงข้ามก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แอชตันกับไมเคิลนั่นเอง

"คาลมึงมองหน้ากูทำไมวะ " ลุคเอ่ยขึ้น

"กูไม่ได้มองหน้ามึง" มองฉันสินะ ฉันไม่ได้พูดอะไรได้แต่ส่งยิ้มหวานๆให้เขา คาลัมส่ายหัวแสดงอารมณ์หงุดหงิดก่อนจะหันหน้าออกไปยังนอกหน้าต่าง แค่ยิ้มก็ผิดหรอเนี่ย คุณพระ!!

"กูก็เห็นมึงมองหน้าลุคอยู่ ยังแฮงค์ไม่หายหรอวะ ทำตัวเหมือนโดนผีสิงไปได้ " ไมเคิลพูดขึ้นบ้างแต่สายตายังคงจดจ่ออยู่กับมือถือเหมือนเดิม

"คงงั้น ผีบ้าด้วย โอ้ยยยย" ฉันเอื้อมมือไปหยิกหูคาลัมทันที ทำเอาเขาสะดุ้งตัวลอย พร้อมหันกลับมาหาฉันอย่างรวดเร็ว ริมฝีปากที่ถูกขบกันไว้รวมถึง คิ้วหนาๆคู่นั้นที่ถูกขมวดเป็นปม ทำให้รู้ว่าเขาคงโกรธฉันมากแน่ๆ แต่เขาคงทำฉันคืนไม่ได้หรอก'ในตอนนี้' ต่อหน้าเพื่อนๆของเขา

"เป็นอะไรของมึงเนี่ยทำตัวประหลาดชะมัด ฮ่าๆ" แอชตันพูดขึ้นบ้างพลางตบมือลงบนขาของคาลัม

ระหว่างทางพวกหนุ่มๆก็คุยกันเรื่องต่างๆนานา เรื่องดนตรี ผู้หญิงบ้าง แฟชั่นบ้าง ฉันก็ได้แต่นั่งฟังไปเรื่อยๆ เพราะถึงพูดไปก็ไม่มีใครได้ยินอยู่ดี อีกอย่างพูดมากอาจจะโดนศอกซ้ายจากนายคาลัมก็เป็นได้ ไม่นานนักแรงเบรกของรถทำให้ฉันเอนไปโดนตัวคาลัมเล็กน้อย

"ขอโทษ"ฉันรีบเอ่ยขึ้นก่อนมองบรรยากาศข้างนอกหน้าสถานีที่ถูกรายล้อมไปด้วยหญิงสาววัยรุ่นที่ยืนกรี๊ดเป็นชื่อของพวกเขาทั้ง 4 คน

ขณะที่ฉันกำลังตื่นตากับบรรยากาศที่วุ่นวายนั้น คาลัมก็สะกิดแขนของฉันด้วยความระมัดระวังไม่ให้เพื่อนๆของเขาเห็น

'อยู่ในรถห้ามไปไหน!' ฉันมองหน้าเขาสลับกับมองตัวหนังสือที่ถูกพิมพ์ไว้บนหน้าจอไอโฟน

"ให้ฉันอยู่บ้านดีว่ามั้ยหล่ะ " เขาถลึงตาใส่ฉัน ก่อนรีบลงจากรถตามหลังเพื่อนๆเขาเข้าไปในสถานีวิทยุ

ฉันล้มตัวลงนอนที่เบาะ พลางนึกถึงเรื่องต่างๆไปเรื่อย เฮ้ออ แต่นึกยังไงก็นึกไม่ออก แต่จริงๆพวกนั้นก็น่าสัมภาษณ์นานอยู่นะแอบไปเดินเล่นในนั้นหน่อยก็ไม่เป็นไรหรอกมั้ง อีกอย่างไม่มีใครเห็นฉันด้วย เผื่อที่นี่อาจจะทำให้ฉันนึกอะไรได้บ้าง

ฉันรีบตั้งสติก่อนเอื้อมมือผ่านรถออกไปข้างนอก ซึ่งครั้งนี้ฉันสามารถทำได้อย่างง่ายดาย ฉันรีบเดินฝ่าฝูงคนนับร้อยที่ยืนออกันอยู่ ลำบากชะมัดเลย เมื่อไหร่ฉันจะมีพลังหายตัวเหมือนในหนังกับเขาบ้างนะ

"มาทางนี้เลยหนุ่มๆ" ฉันเข้ามาในสถานีได้ไม่ทันไรก็ต้องรีบก้าวขาไปหลบหลังเสาทันที เสียงเรียกหนุ่มๆที่ว่าก็ไม่ใช่ใครที่ไหนพวกคาลัมนั่นเอง ถ้านายนั่นเห็นฉัน ฉันคงได้กลายเป็นผีเร่ร่อนชัวร์ ฉันแอบชะเง้อมองพวกเขาเดินเข้าห้องสัมภาษณืไปทีละคนจนครบ ลมหายใจที่ถูกกลั้นอย่างไม่รู้ตัวถูกปล่อยออกมาอย่างโล่งอก เกือบแล้วมั้ยล่ะยัยเอ็ม

"นิค ฉันว่าเสียงลำโพงห้องสัมภาษณ์มันแปลกๆนะ " เสียงผู้หญิงที่ดังขึ้นทำให้ขาของฉันที่กำลังจะก้าวเดินต่อหยุดชะงักทันที 'นิค' ฉันรีบตามเสียงนั้นไปอย่างง่ายดาย เสียงนั้นนำฉันไปยังห้องที่มีสายระโยงระยางเต็มพื้นไปหมด ฉันมองไปยังร่างสูงที่หันหลังให้ฉัน เขาดูกำลังหมกมุ่นอยู่กับการพันสายไฟให้เรียบร้อย

"เดี๋ยวผมเข้าไปเช็คให้นะคาร่า"

"ขอโทษนะนิค ช่างคนอื่นลากันหมดเลย จริงๆนายก็น่าจะลากับเขาบ้าง เพราะแฟนนาย..."

"เธอต้องหายดีครับ ห้องที่มีปัญหาห้องไหนนะคาร่า "ชายหนุ่มหันกลับมาพร้มกับเดินผ่านร่างของฉันไป

"Ouchhhh!!!!" ฉันกุมหัวใจตัวเองทันทีที่เขาเดินทะลุผ่านร่างฉันไป หน้าอกฉันรู้สึกเหมือนโดนค้อนใหญ่ๆทุบลงมา แม้จะไม่เจ็บเหมือนครั้งก่อน แต่ก็ทำให้ฉันตัวชาไปทั้งตัวได้ สมองของฉันสั่งการให้รีบวิ่งตามเขาไปทันที จังหวะที่เขาเอื้อมมือมาปิดประตูห้อง ทำให้ฉันได้เห็นหน้าเขาชัดๆ ผมสีน้ำตาลนี่ถูกเซตให้เป็นทรง ดวงตาสีน้ำตาลเข้มที่เหมือนจะจ้องกลับมาที่ฉันเช่นกัน ดวงตาที่เหมือนจะคุ้นเคย แต่ก็เพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้นที่ฉันได้มองหน้าเขา เพราะเขาปิดประตูเสร็จก็ตรงไปยังตู้ควบคุมทันที

"คาลัม ค้างไปนานเลยนะครับ ว่ายังไงเอ่ย" หืม คาลัม ฉันรีบมองไปรอบห้องที่ฉันยืนอยู่พอดี ยัยโง่เอ็ม ทำไมถึงวิ่งไม่ดูตาม้าตาเรือแบบนี้นะ สายตาอำมหิตที่ส่งมาจากคาลัม ทำให้ฉันยกมือขึ้นมาเป็นเชิงขอโทษเขาทันที เขาส่ายหน้าเอือมๆก่อนที่จะพูดประโยคที่เขาสัมภาษณ์อยู่ให้จบ แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาสนใจนายหัวหยิกนี่ซะหน่อย ฉันรีบเดินตามนิคที่อ้อมไปอยู่ข้างหลังพวกคาลัมที่กำลังให้สัมภาษณ์อยู่

'อุก!!' นั่นไม่ใช่เสียงอะไรที่ไหน เสียงของฉันเองที่ถูกอัดด้วยเก้าอี้ที่คาลัมนั่งอยู่ ตอนนี้ฉันจึงมีสภาพเหมือนแซนวิสไม่มีผิด ร่างฉันถูกอัดอยู่ระหว่างกำแพงกับเก้าอี้ ทำให้ฉันขยับไปไหนไม่ได้เลย

"นายทำอะไรของนายวะเนี่ย เอาเก้าอี้ออกไปจากตัวฉันนะ " ฉันพยายามดันเก้าอี้ที่บีบตัวฉันอยู่ ทำไมเวลาเจอกับคาลัมทีไรพลังวิเศษที่ฉันมีถึงใช้การอะไรไม่ได้เลยแม้เเต่น้อย ฉันจ้องเจ้าของแผ่นหลังที่ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้อยู่บนเก้าอี้งี่เง่านี่

"โอเคแล้วนะคาร่า " เสียงของนิคดังขึ้นอีกครั้ง ทำให้ฉันละความสนใจจากนายคาลัมไปยังนิคทันที ไม่นะ นิคกำลังจะเดินไปแล้ว ไอ้เก้าอี้เฮงซวยนี่ก็บีบก้นฉันอยู่ได้ ฉันพยายามลองใช้แรงดันเก้าอี้เต็มแรงแต่สิ่งที่เกิดขึ้นกลับกลายเหมือนแรงมดที่ทำให้ตัวคาลัมกระตุกเพียงนิดเดียวเท่านั้น

"ฉันพลาดหลักฐานสำคัญไปแล้วเนี่ย เพราะนายเลยไอ้หัวหยิก" ฉันมองตามนิคที่ได้เดินออกจากห้องไปเรียบร้อย

"ไปขึ้นรถ" เขาขยับปากเบาๆ ก่อนที่จะลุกออกจากเก้าอี้ แหมทีอย่างงี้ลุกได้นะ กวนชะมัดเลยผู้ชายคนนี้ พอออกมาจากห้องสัมภาษณ์ฉันก็ไม่เห็นวี่แววของนิคเลย จึงทำได้แต่เดินตามพวกคาลัมขึ้นรถไป ฉันหวังว่านิคจะเป็นนิคคนเดียวกัน คนเดียวกับที่อยู่ในความทรงจำของฉันนะ

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงฉันและคาลัมก็มาถึงบ้านสักที ลุคบอกกับคาลัมว่าจะกลับไปหาแม่ที่บ้านของเขา ทำให้ตอนนี้มีแค่ฉันกับนายคาลัมเท่านั้นที่อยู่ในบ้านหลังนี้ ฉันเดินตรงดิ่งมายังโซฟาทิ้งตัวลงอย่างหมดแรง

"นิค นิค นิค นิค"ฉันพูดชื่อนิคไปมา นายเป็นอะไรกับฉันนะ

"ทำไมถึงลงจากรถ ฉันสั่งว่าไง" คาลัมทิ้งตัวลงบนโซฟาฝั่งตรงข้ามกับฉัน

"ก็ขอโทษละกัน"

"ถ้าไม่เชื่อฟังกันแล้วจะอยู่ด้วยกันได้ไง" เขามองฉันนิ่ง

"โอเคๆ ต่อไปนี้ฉันจะเชื่อนายทุกอย่าง แต่วันนี้ฉันเจอคนชื่อนิคที่สถานีนั่นด้วยนะ"

"นิคไหน?" คาลัมขมวดคิ้ว "ที่เธอฝันถึงหรอ?"

"ฉันว่าใช่นะ เวลาจ้องหน้าเขา หน้าอกฉันรู้สึกเจ็บแปลกๆ ฉันกับเขาอาจจะมีอะไรเกี่ยวข้องกัน"

"ก็นึกให้ออกสิ ง่ายจะตายไป"

"ก็นึกไม่ออกอะดิ ถึงต้องตามนิคไปในห้องที่นายสัมภาษณ์ไง แต่ก็ดันถูกเก้าอี้งี่เง่านั่นดันฉันติดกับกำแพง นายทำงั้นทำไม?" ฉันพูดขึ้นพลางจ้องหน้าเขากลับ

"ก็นึกว่าเธอไปคลั่งผู้ชายอีก ไอ้ลุคก็หนึ่งคนแล้ว ฉันไม่ชอบผู้หญิงบ้าผู้ชาย"

"นายบ้ารึเปล่าเนี่ย คิดอะไรเพ้อเจ้อชะมัด เป็นไงแทนที่ฉันจะได้รู้ว่าร่างฉันอยู่ไหนจากนิคคนนั้น แล้วไปๆจากนายซะ กลับกลายเป็นไม่รู้เรื่องอะไรเลย"

"อาจจะไม่ใช่นิคคนเดียวกันก็ได้ นิคบนโลกนี้มีตั้งหลายคน ทำมาเป็นปากดี"

"ก็ดีกว่านายละกัน เอาแต่สั่งนู้น สั่งนี่ ห้ามนู้น ห้ามนี่ ช่วยอะไรฉันไม่เห็นได้เลย "ฉันลุกขึ้นจากโซฟา ก่อนตรงดิ่งไปยังห้องครัว

"นี่! มาคุยกันให้รู้เรื่อง ด่ากันแล้วเดินหนีเนี่ยนะเอ็ม ฉันไม่ช่วยตรงไหน ที่ซุกหัวนอนที่เธอมีอยู่เนี่ยก็บ้านฉันนะ" ฉันไม่ใส่ใจกับคำพูดที่ลอยมา ไปหาของกินดีกว่ามีประโยชน์กว่าเยอะเลย

"เธอนี่มันผีเนรคุณ" คาลัมสาวเท้าตามฉันมายังห้องครัว

"นี่ปากหรือกรรไกรเนี่ยห๊ะ กัดจิกเก่งจริงๆ อย่างกับผู้หญิงแหนะ หรือว่านาย....OxO" อยู่ๆดีภาพที่นายคาลัมกับลุคกอดคอกันก็ผุดขึ้นมาในสมองกลวงๆของฉัน

"หรือว่าอะไร"

"นายเป็น เป็นเกย์ใช่ป่ะ" ฉันพูดขึ้นพลางชี้นี้เขา

"พูดอะไรของเธอ ไร้สาระ" เขาก้าวขาถอยไปเล็กน้อย

"แล้วนี่น้ำอะไรนองเต็มพื้น เธอทำใช่มั้ย" เขาเฉไฉไปเรื่องน้ำที่พื้นแทนการตอบคำถามของฉัน

"ลุคทำโว้ย นี่ไง! แก้ตัวแทนกันแล้วโยนความผิดของแฟนนายมาให้ฉันอีก นายกับลุค ใช่ใช่มั้ย โธ่ลุคของฉัน" ฉันเดินต้อนคาลัมไปอีกก้าว

"ไม่ใช่! เธอนี่มันผีบ้าจริ.....ฟุบ!!"

"เฮ้ยยยย" เสียงเฮ้ยที่ได้ยินไม่ใช่เสียงใครที่ไหน คาลัมก้าวถอยหลังแต่เขาดันพลาดลื่นล้มจากน้ำที่เจิ่งนองอยู่ที่พื้น แต่ไม่ใช่เขาน่ะสิที่ล้มลงไปคนเดียวมือหนาๆที่กวาดหาที่ยึดกลับคว้าเอวบางๆของฉันไปด้วย

"ละ หลังฉัน โอ้ย" ฉันยังคงปิดตาแน่น รับรู้ถึงความเจ็บบริเวณหลังที่ผ่านการกระแทกพื้นกระเบื้องอย่างแรง แต่แม้ไม่ได้ลืมตาความหนักที่ทิ้งอยู่บนร่างของฉัน ก็ทำให้เดาได้ไม่ยากว่านายคาลัมคงนอนทับฉันอยู่

"เอ็ม เป็นอะไรมากมั้ย" เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นเบาๆทำให้เปลือกตาของฉันถูกลืมอย่างง่ายดาย ภาพที่เห็นตรงหน้าทำให้ฉันแทบจะกลั้นหายใจ หน้าฉันกับเขาห่างกันไม่ถึงคืบ มันใกล้จนทำให้ฉันสามารถรับรู้ถึงลมหายใจอุ่นๆของเขาได้ คาลัมยังคงใช้สายตาที่ไม่สามารถเดาความรู้สึกคู่นั้นจ้องมาที่ฉัน เช่นเดียวกันกับฉันที่ไม่สามารถละลายตาจากดวงตาคู่นั้นได้เลย เขาเลื่อนหน้าเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้ปลายจมูกของเราสองคนสัมผัสกัน สายตาของฉันเบิกกว้างโดยอัตโนมัติกับการกระทำของคนตรงหน้าบวกกับหัวใจของฉันที่ดูเหมือนจะเต้นเป็นจังหวะที่แปลกไป

"อึก ฮะอึก..." คาลัมชะงัก ฉันรีบเอามือขึ้นมาปิดปากของฉันทันที โอ้ย มาสะอึกอะไรตอนนี้ น่าอายชะมัดเลย!

"เอ่อ หัวกระแทกรึเปล่า ทำหน้าเอ๋อเชียว ฮ่าฮ่าๆ" คาลัมรีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว พลางลูบท้ายทอยของเขาแก้ความประหม่าที่เกิดขึ้นเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมา

"หลังฉันคงร้าวไปหมดแล้วมั้งเนี่ย" ฉันรีบปรับอารมณ์พลางลุกขึ้นมานั่ง เสียงกร๊อบแกร๊บที่ดังจากหลังฉัน ทำให้ฉันเดาไม่ยากว่ากระดูกฉันคงจะถูกกระแทกไม่น้อยเลย ฉันมองไปยังชายตรงหน้าที่ยืนพิงเคาท์เตอร์อยู่ แถมยังไม่มีความรู้สึกผิดสักนิด

"ก็ฉันลื่น แล้วเธอก็ไม่หลบเองด้วย "

"นายนี่! ขอโทษสักคำยังไม่มี ยังมาโทษคนอื่นอีก เอาน้ำไปล้างปากเน่าๆของนายหน่อยมั้ย" ฉันกวักน้ำที่พื้นสาดใส่ตัวเขา

"เฮ้ย เล่นไรวะมันสกปรก! " ฉันเบ้ปากใส่เขา ก่อนลุกขึ้น

"เมื่อกี้ฉันเป็นเบาะให้นาย นายถึงไม่เจ็บตัวอะไรเลย เห็นมั้ยว่าฉันเป็นผีที่ดีแค่ไหน นายก็ควรจะตอบแทนอะไรฉันบ้าง"

"อะไรต้องการอะไรอีก " เขายืนกอดอกแน่นรอฟังคำตอบ

"ทำอาหารเย็นให้กินหน่อยละกัน" ฉันพูดพลางสะบัดหน้าเดินออกไปจากตรงนั้นทันที

"เอ็ม! มาทำเองซิ ฉันไม่ใช้เบ๊เธอนะ"เสียงทุ้มตะโกนไล่หลังออกมา

"ถือว่าชดใช้ที่นายทำหลังฉันร้าวนี่ไง" ฉันรีบวิ่งขึ้นไปยังห้องนอนทันทีเพื่อหลีกหนีจากเสียงบ่นที่ยังคงพ่นออกมาจากปากนายคาลัมอย่างต่อเนื่อง ฮึเอาฉันเป็นเบาะรองก้นแล้วก็ต้องชดเชยกันหน่อยจริงมั้ย

ฉันล้มตัวลงนอนที่ที่นอนชั่วคราวที่ถูกทำเอาไว้อย่างลวกๆบนพื้น สมองฉันยังคงมีแต่เรื่องเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ ฉันยังคงรู้สึกถึงลมหายใจอุ่นๆที่รดอยู่บนแก้มของฉัน นี่ฉันโรคจิตรึเปล่า ทำไมถึงรู้สึกแปลกๆกับนายนั่น ฉันสะบัดไล่ความคิดบ้าๆออกจากหัว นี่ฉันคงต้องรีบนึกให้ออกแล้วหละว่าฉันเป็นใคร เพราะถ้าอยู่นานกว่านี้ฉันคงไม่....ไม่อยากจากคาลัมไปแน่ๆ

'นิคนายต้องช่วยฉันนะ'

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------writer's part: มาอัพเเล้วหลังจากหายไปนานมว๊ากกกกกกกกกก ช่วงนี้ไรท์ติดสอบกว่าจะหาเวลาเเต่งต่อนี่ยากมากจริงๆ ขอโทษรีดเดอร์ทุกคนด้วย อ่านจบแล้วอย่าลืมคอมเม้นท์ ติชม กันเยอะๆน้า อยากอ่านความคิดเห็นของรีดเดอร์ทุกคนเลย จะได้เป็นกำลังใจในการเเต่งต่อเน๊อะ จุ๊บบบบ

Bạn đang đọc truyện trên: Truyen4U.Com